ขายเครื่องสำอางโดนแบนบ่อย ? แชร์วิธีของสายเทาแบบคร่าวๆ
ผมสังเกตมาจากหลายกลุ่มและหลายคนได้ประสบปัญหาเรื่องการขายครีมหรือเครื่องสำอางต่าง ๆ ที่มักจะโดนแบนบ่อยไม่รู้จะทำกันยังไง บางคนไม่รู้ด้วยว่ามันมีวิธีการฟาร์มเฟสบุ๊คและมีเพียงเฟสเดียว พอโดนแบนแล้วก็ไม่มีเฟสไว้ยิงแอดอีกเลย ผมพูดตรง ๆ ว่ายิ่ง Facebook เกิดการอัพเดทบ่อยครั้งมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึ่มและเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ อย่างล่าสุด Facebook เค้าก็เริ่มสูญเสียตัวตนจากเดิมที่เป้าหมายเค้ามุ่งจะเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเชื่อมต่อผู้คนทั่วโลกเข้าด้วยกัน
แต่ตอนนี้พอเกิด TikTok ขึ้นมา Facebook ก็เริ่มเสียผู้ใช้งานไปทีละน้อย อย่างล่าสุดก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึ่มโดยสร้างหน้า Feed และ Home แยกขึ้นมาคร่าว ๆ คือคล้ายกับ TikTok อย่างมาก เข้าเรื่องเลยดีกว่า ในเนื้อหานี้ผมจะแชร์เนื้อหาของสายเทาบางส่วนที่ผมใช้อยู่ไว้ยิงแอดสำหรับขายครีม ที่ผมเทสมันก็มีโดนแบนบ้างแต่น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
ขายเครื่องสำอางโดนแบนบ่อย ? แชร์วิธีของสายเทาแบบคร่าวๆ (กดเลือกอ่าน)
ปกติถ้าคุณเป็นตัวแทนจำหน่ายพวกสินค้าเครื่องสำอางหรือครีมต่าง ๆ แม่ทีมหรือบริษัทที่ผลิตสินค้าพวกเค้าก็จะมีรูปมาให้คุณไว้สำหรับทำโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ และคุณก็นำมาโฆษณาอีกที แต่ถ้าเกิดคุณโพสต์ขายปกติบน Facebook แล้วมันก็ไม่มีปัญหาอะไรไม่ได้โดนแบน แต่ถ้าคุณได้ยิงแอดเมื่อไหร่ล่ะก็ให้คุณทำใจได้เลยว่าเตรียมตัวโดนแบนได้เลย ขึ้นอยู่กับว่าจะช้าหรือเร็ว ต้องเสียเวลามานั่งปลดแบนจาก Facebook กันอีก ผมจะพาคุณมารู้กฎ 3 ข้อที่ต้องเข้าใจ เพราะมันถือว่าเป็นพื้นฐานของการยิงแอดเลยครับ
กฎข้อที่ 1 รูปที่คุณก็อปมาก็มีคนอื่นเอามาใช้
ยิ่งถ้าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของแบรนด์โดยตรง แต่คุณเป็นเพียงแค่คนที่รับมาขายก็มักจะใช้รูปภาพหรือคำที่มาจากแม่ทีมหรือบริษัทโดยตรงเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการทำโฆษณา แต่รู้หรือไม่ว่ามันคือ “ข้อผิดพลาดอย่างมหันต์ !!” ผมเชื่อเลยว่าถ้าคุณอยู่ในวงการโฆษณาคุณจะไม่ใช้รูปซ้ำ ๆ กับคนอื่นอย่างแน่นอน ยกเว้นแต่ว่าคุณจะไม่มีเวลาทำหรือยุ่งจริง ๆ จะใช้รูปก็อปมาเลย สิ่งต่อมาที่คุณต้องคิดคือก็ต้องมีคนอื่นที่ก็อปรูปเหล่านี้ไปยิงโฆษณาด้วยหมือนกัน และเราไม่มีโอกาสรู้เลยว่าที่ยิงแอดไปแล้วนั้นเค้าโดนแบนมารึเปล่า
ฉะนั้นผมแนะนำว่าถ้าคุณจะก็อปรูป ให้คุณก็อปมาแล้วเอามาเปลี่ยนแปลงตกแต่งรูปสักนิด เช่น ใส่ฟิลเตอร์ เพิ่มสติ๊กเกอร์ลงไป ใส่ขอบรูป หรือทำยังไงก็ได้ให้ดูมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม เพื่อช่วยลดอัตราการโดนแบนได้ระดับหนึ่ง
กฎข้อที่ 2 เข้าใจกับระบบ AI ของ Facebook กันหน่อย
ผมอยากให้คุณได้ลองคิดตามดูสักหน่อยว่าระบบ AI Facebook ในสายตาของคุณมันฉลาดมากน้อยแค่ไหน ?
งั้นผมจะพูดคำตอบของผมให้เลยแล้วกันนะครับว่าในสายตาผมนั้น AI Facebook ฉลาดอย่างมาก โดยเฉพาะพวกรูปหรือคำที่ละเมิดเกี่ยวกับลิขสิทธิ์มันก็ทำให้เฟสของคุณบินได้เลย สำหรับระบบ Algorithm ของเฟสบุ๊คนั้นเค้าสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้อยุ่ตลอดเวลา อย่างที่บอกไปข้างต้นในกฎข้อที่ 1 ครับว่า “อย่าก็อปรูปมายิงแอด” เพราะถ้าเกิดมีคนเอารูปนั้นมาใช้แล้วโดนแบนไปแล้ว ระบบ AI ของ Facebook เค้าจดจำตัวรูปภาพและแคปชั่นพวกนั้นได้อยู่แล้ว ถ้าคุณมาใช้ซ้ำยังไงไม่ช้าก็เร็วคุณก็จะโดนแบนอย่างแน่นอน
ส่วนใหญ่ผมว่าหลายคนก็เอารูปมาจาก Google ด้วยการ Search แบบง่าย ๆ หรือไม่ก็ค้นหาด้วยชื่อของแบรนด์เลย จากนั้นก็ก็อปมาปุ๊บเอามายิงแอดทันทีโดยไม่แก้อะไรทั้งนั้น
ส่วนตัววิธีที่ผมใช้จะใช้วิธีเขียนทุกอย่างขึ้นมาใหม่ ใช้รูปประกอบแบบง่าย ๆ ทำใน Canva Photoshop หรือแอพพลิเคชั่นอะไรก็ได้สำหรับคุณที่คิดว่าง่าย ดีกว่าที่ผมจะมานั่งก็อปรูปแล้วต้องมานั่งฟาร์มหรือซื้อบัญชีใหม่ ๆ เพื่อสู้กับการโดนแบนคงไม่ไหวอย่างแน่นอน
สิ่งที่ผมอยากให้คุณเข้าใจคือรู้จักกับระบบ Algorithm ของ Facebook ก่อน ผมเชื่อว่าถ้าคุณรู้จักกับระบบอัลกอริทึ่มแล้วคุณจะได้เห็นอะไรบางอย่างจากมัน และคุณก็จะทำแอดโฆษณาได้ง่ายขึ้นมาก ต่อให้เป็นระดับโฆษณาพนันก็ไม่ยากเลย
กฎข้อที่ 3 ระวังเรื่องคำที่เขียนให้ดี
ผมจะบอกว่าผมเจอโฆษณาพวกครีมหรือแม้กระทั่งสินค้าอื่น ๆ มาเยอะแยะมากมาย ที่จะพยายามเลี่ยงด้วยสารพัดวิธี สุดท้ายแล้วก็ไม่พ้นโดนแบนหรือโดนลดการมองเห็นจาก Facebook เพราะทำผิดกฎไปได้ ผมว่าคุณจะต้องเคยเห็นคนที่โพสต์ขายของครีมต่าง ๆ ด้วยคำว่า “vาย, ขาe, vาวกsะจาJใส, vาวได้ใu 7 วัu, ผิวaวย lนียuนุ่ม อะไรทำนองนี้ แต่คำพวกนี้ Facebook สามารถรู้ได้ว่าคุณต้องการจะบอกอะไร เมื่อสมัยก่อนหากย้อนไปสัก 3 – 4 ปีที่แล้วมันก็ยังได้ผลดีอยู่เพราะ Algorithm ของ Facebook ยังไม่ได้มีการเรียนรู้คำพวกนี้
แต่ปัจจุบันเมื่อถูกพัฒนาบ่อยครั้งเข้า ทำให้มันตรวจจับได้ดีขึ้นและคำเหล่านี้ก็ไม่ได้ผลอีกต่อไป สำหรับผมแล้วเรื่องพวกนี้ก็สำหรับที่คนขายเครื่องสำอางหรือครีมชนิดต่าง ๆ ควรจะเลี่ยงไว้ ผมมีตัวอย่างที่อยากให้คุณดูก็คือพวกแบรนด์ใหญ่ ๆ เวลาเค้าทำโฆษณากันค่อนข้างเขียนคอนเทนต์และคำที่โอเคมาก ๆ เลย
ผมขอยกตัวอย่างจากเพจของ Olay นะครับ
คุณเองก็ไปเรียนรู้จากโฆษณาของแบรนด์เหล่านี้ได้เหมือนกัน สำหรับวิธีของสายเทาในการทำโฆษณาแล้ว พวกเรามักจะเลี่ยงคำในการใช้งานมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประดิษฐ์คำที่สามารถสื่อสารให้กับลูกค้าเข้าใจได้ รวมถึงการปรับแต่งภาพลดความเสี่ยงที่จะทำให้ AI ของ Facebook จับได้ว่าเราทำโฆษณาอะไร และทำออกมาให้ดูเหมือนสายขาวได้มากที่สุด
นอกจากเรื่องคอนเทนต์ที่ต้องระวังแล้ว ก็ยังมีเรื่อง Emoji ที่คุณต้องระวังด้วยนะครับ
สรุป
เทคนิคที่ผมได้แชร์ไปผมบอกเลยว่าจริง ๆ มันก็คือพื้นฐานของการเริ่มต้นทั้งสำหรับสายขาวและสายเทาทั้งนั้น และคนส่วนมากที่ทำโฆษณามักจะมองข้ามขั้นกันไปไกลและไม่ได้คำนึงถึงขั้นพื้นฐานเลยสักนิด ผมเปรียบเทียบให้ง่าย ๆ เวลาจะสร้างตึกสักตึกหนึ่งมันก็จำเป็นต้องมีฐานที่มั่นคง แข็งแรง เพื่อให้รับน้ำหนักกับส่วนอื่น ๆ และไม่เกิดการพังทลายลงได้แบบง่าย ๆ ทั้งในมุมของคนยิงแอดสายเทาไม่ว่าจะเป็นครีม การพนัน หรืออะไรก็แล้วแต่ พวกเค้าจะต้องไม่ลืมฐานด้วย
อย่างครีมเองผมบอกเลยว่าการทำโฆษณานั้นง่ายสุด ๆ หากเทียบกับการทำสายเทาด้านอื่น ๆ แล้วล่ะก็ มันก็ยังถูกจัดอยู่ในสายขาวด้วยเช่นกัน แต่ถ้าไม่อยากให้โดนแบนบ่อย ๆ คุณจำเป็นจะต้องมีความรู้ในด้านคอนเทนต์ การทำรูปหลบ AI Facebook และสามารถสื่อสารให้ผู้ที่เห็นโฆษณาได้เข้าใจ ในบทความอื่น ๆ ผมจะแชร์เนื้อหาของสายเทาไว้ให้เรื่อย ๆ หลากหลายรูปแบบไว้ให้พวกคุณได้อ่านและนำไปประยุกต์ใช้ได้แบบง่าย ๆ เลย