อีกหนึ่งคำถามยอดฮิต ที่มักจะมีคนถามผมมาเยอะไม่แพ้กัน ก็คือค่าโฆษณาแพง ค่าคลิกแพง ทำยังไงดีคะเฮีย ? เมื่อก่อนเคยยิงได้ถูกกว่านี้ ทำไมพอโฆษณาวิ่งไปแล้ว มันแพงขึ้นคะ ?

คำถามนี้เป็นคำถามปลายเปิด ที่ค่อนข้างจะกว้าง และตอบยากพอควร เพราะค่าคลิกที่ถูกหรือแพงนั้น มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าหรือกลุ่มเป้าหมายเพียงอย่างเดียว แต่มันยังมีปัจจัยอื่นๆ ตามมาด้วย ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นมาอ่านบทความนี้ได้เลยครับ

ทำความรู้จักกับการเก็บเงินของ Facebook

ผมจะขอเกริ่นเริ่มต้นก่อนครับเผื่อบางคนลืมคิดถึงวิธีการเรียกเก็บเงินของ Facebook ซึ่งคุณจะได้ไม่ลืมมันอีก

ระบบการโฆษณาของเฟสบุ๊คนั้น เป็นระบบของการประมูล (Bid) และจะคิดเงินเราด้วย 2 วิธี นั่นคือ

  1. คิดตามจำนวนคลิก (Cost per click) หรือ CPC นั่นคือ เราจะเสียเงินตอนที่คนคลิกเข้ามาดูโฆษณาในแต่ละครั้งนั้นเอง
  2. คิดตามจำนวนการแสดงผล (Cost per impression) หรือ CPM นั่นคือเราจะเสียเงินก็ต่อเมื่อมีคนเห็นโฆษณาทุกๆ 1,000 ครั้ง โดยไม่สนใจ ว่าจะมีคนคลิกมั้ย

ทีนี้เราจะเลือกยังไง ว่าเราควรลงโฆษณาแบบไหน ?

หลายคนคิดว่า ควรเลือกแบบ CPC สิ เพราะคนที่คลิก ก็คือคนที่สนใจโฆษณาของเรานี่นา ไม่แปลกกหรอกครับจะคิดแบบนี้ก็ไม่ผิด เพราะถ้าคุณเลือกแบบนี้ เฟสบุ๊คก็จะส่งคนที่ชอบคลิก หรือ คนที่ใกล้เคียงหรือเป็นกลุ่มเป้าหมายของคุณมาให้ แต่ถ้าโฆษณาคุณน่าสนใจ จนมีคนคลิกมันเยอะ ก็จะทำให้ ค่า CPC สูงนั่นเอง แต่ถ้าคุณชอบ ได้กำไร จะเป็นไรไปละครับ จริงมั้ย ?

แล้วแบบ CPM ล่ะ เป็นยังไง ??

แบบ CPM หรือ Cost Per Impression นั่นคือ ถ้าคุณอยากให้กลุ่มเป้าหมายของคุณ เห็นโฆษณานี้เยอะๆ โดยที่ไม่ต้องคลิกก็ได้ เน้นทำให้เกิดการรับรู้ การมองเห็น หรือที่เรียกกันว่า Awareness เพื่อให้คุณรู้จักคุณมากขึ้น ก็ควรจะเลือกแบบ CPM

ทั้งนี้ทั้งนั้น แบบไหนดีกว่ากัน ผมตอบไม่ได้ครับ เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ และเป้าหมายของคุณ ว่าคุณต้องการผลลัพท์ แบบไหน

วิธีที่ผมใช้เพื่อลดค่าโฆษณาให้ถูกลง

อันนี้เป็นวิธีของผมเองที่จะมาแชร์ให้กับทุกคน โดยผมจะคัดจากวิธีหลักๆ จนเหลือเพียงแค่ 3 ตัวเท่านั้นที่ผมได้ผลลัพธ์กลับมา และจะสรุปให้เป็นความคิดเห็นของผม

1.ลองเข้าหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ดูบ้าง

อย่างที่บอกไปว่า ค่าโฆษณาเฟสบุ๊คนั้นเป็นระบบของการประมูล ซึ่งถ้าเรายิ่งใช้กลุ่มเป้าหมายที่ซ้ำกัน กับที่คนอื่นใช้ เราก็จะต้องประมูลแข่งขันกับคนอื่น และกฎของการประมูลก็คือ ใครที่จ่ายเงินสูงกว่า ก็จะได้พื้นที่นั้นหรือได้พื้นที่ที่ดีที่สุดไป มันเป็นกฎพื้นฐานที่ใช้กันเกือบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น Google Shopee Lazada YouTube หรือแม้แต่สื่อ Offline และพวก TV ก็ตาม

ซึ่งปัจจุบัน ก็มี Tools ทางการตลาดดีๆหลายตัว ที่ช่วยหากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่เฟสบุ๊คไม่ยอมแสดงให้เราเห็น อย่างที่ผมใช้อยู่ก็จะมีเช่น InterestPRO ใครพอมีงบแนะนำให้ลองใช้ดูครับ แล้วคุณจะพบกับค่าโฆษณาที่ถูกลงอย่างน่าตกใจ

2. อย่าให้คนเดิมเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

เพราะการที่คนที่เคยเป็นลูกค้าของเราเห็นโฆษณาของเราอีกครั้งนั้น จะทำให้เค้าไม่สนใจ และรู้สึกรำคาญด้วยซ้ำ จนต้องปัดทิ้งไป นี่เป็นเหตุผล ทำให้ค่าโฆษณาแพงขึ้นครับ

เพราะฉะนั้น วิธีการก็คือ ลองเปลี่ยนโฆษณาใหม่ๆดูบ้าง หรือ ถ้าใครยิงแบบการใช้ Pixel , Conversion ก็อาจจะสร้าง Custom Audience ขึ้นมา เพื่อ Exclude กลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นออกไปก็ได้ครับ

3. ชิ้นงานโฆษณาเป็นเรื่องสำคัญ

บางทีเราเอง โฟกัสกับเรื่องอื่นๆมากจนเกินไป จนลืมไปว่า สิ่งสำคัญที่จะทำให้คนคลิกหรือสนใจ นั่นคือ Content ของตัวโฆษณาเราเองล้วนๆ เพราะถึงแม้ว่าเราจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีขนาดไหน แต่ถ้าเราทำโฆษณาไม่ดี เค้าก็ไม่คลิกโฆษณาเรา ถูกมั้ยครับ

เพราะฉะนั้น ผมแนะนำให้ฝึกคิด พลิกแพลง ดู สังเกต เยอะๆ ไม่ว่าจะเป็น คู่แข่งของธุรกิจเรา เทรนด์ที่กำลังมาในตอนนี้ อะไรที่น่าสนใจหรือดึงดูดมากพอที่จะเอามาเป็น Magnet หรือ แม่เหล็ก ให้คนมาสนใจในโฆษณาของเราได้ (สำหรับนักเรียนผมมีอัปเดตเป็นพิเศษให้ในกลุ่มไปแล้วนะครับ)

สรุป

แต่สิ่งนึงที่อยากจะบอกคือ ค่าโฆษณาไม่ใช่ทั้งหมดครับ !!

กำไร หรือ มูลค่าที่เราได้รับมากกว่า คือตัววัดผล เพราะคุณจะเลือกแบบไหนครับ ระหว่าง ค่าโฆษณาแพงกว่าเดิมนิดหน่อย แต่ได้ลูกค้าเยอะขึ้น กำไรโดยรวมเยอะขึ้น เทียบกับ ค่าโฆษณาถูกมาก ค่าคลิกถูกสุดๆ แต่ได้ลูกค้าน้อย ไม่เท่าแบบแรก

สำหรับผม “ผมเลือกแบบที่ 1″ แล้วคุณละ เลือกแบบไหนครับ

ใครชอบโพสแบบนี้ อยากให้ผมแชร์ทริคบ่อยๆ ฝากแชร์หน่อยครับ เดี๋ยวผมจะมาลงให้บ่อยๆ ส่วนใครที่ยังไม่รู้จักผม เพิ่งผ่านมาเจอคอนเทนต์ผม ไปติดตามเพจ ยิงแอดสายเทา By เฮียบอย ผมอัปเดตคอนเทนต์สายเทาไว้ในเพจอยู่เรื่อยๆ เลย

แล้วมาเจอกันในบทความถัดไปครับ

เฮียบอย